พลับพลา


ชื่อภาษาไทย : พลับพลา
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Microcos tomentosa Smith
ชื่ออื่นๆ : หลาย (แม่ฮ่องสอน), กะปกกะปู (พิษณุโลก), สากกะเบือละว้า (สุโขทัย), คอมขน (ชัยภูมิ), มลาย (ชลบุรี, จันทบุรี, ตราด), พลาขาว (ชุมพร), พลาลาย (ตรัง), พลา (ยะลา,ปัตตานี, ระนอง), พลับพลา ขี้เถ้า (ภาคกลาง), กอม กะปกกะปู คอม พลา ลาย สากกะเบือดง สากกะเบือละว้า หมากหอม (ภาคเหนือ), คอมเกลี้ยง พลองส้ม (ภาคตะวันออก), ก้อมส้ม คอมส้ม (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ), หมากหอม (ภาคเหนือ, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ), น้ำลายควาย พลาขาว พลาลาย (ภาคใต้), มลาย (ภาคตะวันออกเฉียงใต้), จือมือแก (มลายู-ภาคใต้), ปะตัดหูเปี้ยว (เมี่ยน), เกลี้ยง, ก่อ
อาณาจักร(Kingdom) : อาณาจักรพืช (Kingdom Plantae)
ดิวิชัน(Division) หรือไฟลัม(Phylum) : ไม่ระบุ
คลาสหรือชั้น(Class) ไม่ระบุ
ลำดับ(Order) : ไม่ระบุ
แฟมิลี่หรือวงศ์(Family) : ไม่ระบุ
จีนัส(Genus) : ไม่ระบุ
สปีชีส์(species) : ไม่ระบุ
การใช้ประโยชน์ : ยารักษาโรค
ลักษณะ

ต้นพลับพลา จัดเป็นไม้ยืนต้นหรือเป็นไม้พุ่มขนาดกลาง มีความสูงของต้นประมาณ 15 ต้น ลำต้นตั้งตรง เปลือกลำต้นเป็นสีเทาและแตกล่อนเป็นสะเก็ดบาง ๆ เปลือกด้านในเป็นสีชมพู และมีเส้นใยเรียงตัวเป็นชั้น ที่กิ่งอ่อนและก้านใบจะมีขนลักษณะเป็นรูปดาวอยู่หนาแน่น

ใบพลับพลา ใบเป็นใบเดี่ยว เรียงสลับกัน ลักษณะของใบเป็นรูปวงรีแกมรูปขอบขนาน หรือเป็นรูปวงรีแกมรูปไข่กลับ หรือเป็นรูปขอบขนานแกมรูปไข่กลับ โคนใบสอบมนหรือกลม ส่วนปลายใบแหลม ขอบใบเป็นหยักแบบฟันเลื่อยและไม่เป็นระเบียบที่ปลายใบส่วนกลางและโคนใบ ขอบเรียบ ปลายใบมีติ่งแหลมสั้น ๆ ใบมีขนาดกว้างประมาณ 3-10 เซนติเมตร และยาวประมาณ 6.5-19 เซนติเมตร แผ่นใบด้านบนเป็นสีเขียวเข้ม ส่วนด้านล่างเป็นสีเขียวหม่น แผ่นใบมีลักษณะคล้ายกระดาษถึงกึ่งหนาคล้ายกับแผ่นหนัง และมีขนรูปดาวขึ้นอยู่ทั้งสองด้าน โดยด้านล่างจะมีขนขึ้นหนาแน่นกว่า และใบมีเส้นแขนงใบอยู่ข้างละประมาณ 4-9 เส้น มี 3 เส้น ออกจากโคนใบ โดยเส้นใบย่อยจะคล้ายกับขั้นบันได้ มองเห็นได้ชัดเจนที่ด้านล่าง ส่วนก้านใบมีความประมาณ 6-12 มิลลิเมตร และมีขนขึ้นหนาแน่น

ดอกพลับพลา ออกดอกเป็นช่อกระจุกแยกแขนงตามซอกใบหรือที่ปลายกิ่ง มีความยาวประมาณ 3-15 เซนติเมตร ลักษณะของดอกตูมกลม มีดอกย่อยจำนวนมาก กลีบดอกเป็นสีเหลือง ส่วนก้านและแกนช่อดอกมีขนอยู่หนาแน่น ส่วนใบประดับเป็นรูปแถบหรือเป็นรูปใบหอก มีความยาวได้ถึง 1 เซนติเมตร และมีขนอยู่หนาแน่น ส่วนก้านดอกมีความยาวประมาณ 3-15 เซนติเมตร มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 4 มิลลิเมตร ส่วนกลีบเลี้ยงมี 5 กลีบ แยกออกจากกันเป็นอิสระ ลักษณะคล้ายรูปช้อน มีความกว้างประมาณ 2 มิลลิเมตร และยาวประมาณ 6-7 มิลลิเมตร และมีขนอยู่ทั้งสองด้าน ส่วนกลีบดอกมี 5 กลีบ แยกออกจากกันเป็นอิสระ ลักษณะเป็นรูปไข่แกมรูปใบหอก มีความกว้างประมาณ 0.5-1.5 มิลลิเมตร และยาวประมาณ 1.5-3 มิลลิเมตร และมีขนสั้น ๆ อยู่ทั้งสองด้าน ที่โคนกลีบด้านในมีต่อมลักษณะเป็นรูปรี ดอกมีเกสรตัวผู้จำนวนมาก ก้านชูอับเรณู โคนมีขน ปลายเกลี้ยง ส่วนรังไข่จะอยู่เหนือวงกลีบ ลักษณะเป็นรูปวงกลม กว้างประมาณ 1 มิลลิเมตร และยาวประมาณ 2 มิลลิเมตร มีขนอยู่หนาแน่นมี 2-4 ช่อง โดยในแต่ละช่องมีออวุลอยู่ 2 เม็ด โดยจะออกดอกในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนตุลาคม

ผลพลับพลา ลักษณะของผลเป็นรูปทรงกลมแกมรูปไข่กลับ ผลมีขนาดกว้างประมาณ 0.6-1 เซนติเมตร และยาวประมาณ 1-1.2 เซนติเมตร ผลผนังชั้นในแข็ง ผนังของผลลักษณะคล้า

การขยายพันธ์

N/A

พื้นที่ขยายพันธ์

ในประเทศไทยพบทั่วไปตามป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง ป่าผลัดใบผสม ป่าดิบแล้ง ในระดับสูงกว่าน้ำทะเล 50-300 เมตร หรือ 100-600 เมตร

อ้างอิง

frynn.com/พลับพลา/

คำอธิบายอื่นๆ

N/A

สถานที่
ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านกำนันเคว็ด ชุมชนวังตะกอ อำเภอหลังสวน
ป่าอนุรักษ์แม่โจ้ - ชุมพร

ภาพประกอบ 

แสดงความคิดเห็น

มหาวิทยาลัยแม่โจ้ - ชุมพร

มหาวิทยาลัยแม่โจ้ – ชุมพร ยึดปรัชญาตามมหาวิทยาลัยแม่โจ้ คือ มุ่งมั่นพัฒนาบัณฑิตสู่ความเป็นผู้อุดมด้วยปัญญาอดทน สู้งาน เป็นผู้มีคุณธรรม และจริยธรรม เพื่อความเจริญรุ่งเรือง วัฒนา ของสังคมไทยที่มีการเกษตรเป็นรากฐาน

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง

มหาวิทยาลัยแม่โจ้
มหาวิทยาลัยแม่โจ้ - ชุมพร
ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศมหาวิทยาลัยแม่โจ้

สถานที่ติดต่อ




  • Phone
    (+66) 077-519495
  • E-Mail
    chomphon@mju.ac.th
  • Address
    มหาวิทยาลัยแม่โจ้ - ชุมพร 99 หมู่ 5 บ้านแหลมสันติ
    ตำบลละแม อำเภอละแม จังหวัดชุมพร 86170

  • จำนวนผู้เข้าชมหน้านี้ทั้งหมด 112 ครั้ง
  • การเข้าถึงหน้านี้ 5 ลำดับล่าสุด(เวลา)
    5/8/2025 12:23:53 PM
    4/24/2025 4:16:19 AM
    4/19/2025 10:30:09 PM
    4/19/2025 7:00:42 PM
    4/19/2025 5:48:23 AM